การปลูกมันหวานหรือมันเหลืองญี่ปุ่น(Japanese Sweet)

การปลูกมันหวานหรือมันเหลืองญี่ปุ่น(Japanese Sweet)
ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จ.พิจิตร ได้คลุกคลีกับการปลูกมันเทศมานานประมาณ 4 ปี โดยสายพันธุ์ทีนํามาปลูกเป็นสายพันธุ์ทีนําเข้าจากต่างประเทศทังสิน อาทิ มันเทศเนือ สีส้มจากประเทศออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกามันเทศเนือสีม่วงจากประเทศญีปุ่น และล่าสุดได้นํามันเทศเนือสีเหลืองสด เนือเหนียว แน่น รสชาติหวาน หลายคนเรียกว่า Japanese Sweet Potato มันเทศเนือสีเหลืองจากญีปุ่นจัดเป็นมันเทศทีมีราคาแพงทีสุดในขณะนี ขายในซุปเปอร์มาเก็ตห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 90-100 บาท ลักษณะของหัวมันจะเรียวยาวได้สัดส่วน ผิวเปลือกมีสีม่วงอมแดง ทางแผนกฟาร์ม ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรได้นํามันเทศเนือสีเหลืองมาทดลองปลูกและเก็บ เกียวผลผลิตมา 2 รุ่น จนแน่ใจว่าปลูกได้ในบ้านเราและให้ผลผลิตสูง ทีสําคัญมีคุณภาพและรสชาติไม่แตกต่างจากทีนําเข้าจากญีปุ่น
++ การเตรียมแปลงปลูก ++
ปลูกมันเหลืองญีปุ่นให้ลงหัวได้ดีนัน ปัจจัยทีไม่ควรมองข้ามก็คือ เรืองโครงสร้างของดิน ถึงแม้ว่ามันเทศจะปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินร่วนปนทรายมีความเหมาะสมทีสุด สําหรับพืนทีดินทีขาดความอุดมสมบูรณ์ ก่อนปลูกควรใส่ปุ๋ยคอกเก่า เช่น มูลวัว มูลไก่ ฯลฯ ในอัตรา 1-2 ตันต่อไร่ ในการเตรียมแปลงปลูกให้ไถดะก่อน 1 ครัง และทิงไว้ประมาณ 7-10 วัน ทําการไถแปลงให้ดินละเอียดยิงขึนและกําจัดวัชพืช โดยใช้ผานเดินตามการไถดะ หลังจากนันให้ทําการยกร่องแปลงปลูกขึนเป็นรูปสามเหลียม กว้างประมาณ 70 เซนติเมตร สูง 30-40 เซนติเมตร ความยาวของแปลงปลูกขึนอยู่กับสภาพพืนที ถ้าจะให้เหมาะสมควรจะปลูกแบ่งเป็นล็อคๆ โดยแปลงมีความกว้างของแปลง 40 เมตร และความ ยาวของแปลง 80 เมตร เพือสะดวกและง่ายต่อการดูแลรักษา
++ การจัดระบบนําในแปลงปลูกมันเทศ ++
โดยปกติทัวไปสําหรับเกษตรกรทีปลูกมันเทศทัวประเทศมักจะไม่ให้ความสําคัญในเรืองของระบบนําในแปลงปลูก ถ้าปลูกในช่วงฤดูฝนอาจจะพึงเพียงนําฝนจากธรรมชาติเท่านัน ถ้าปลูกในฤดูแล้งอาจจะมีการให้นําแบบท่วมแปลง แต่ถ้าการปลูกมันเหลืองญีปุ่นควรจะมีการจัดระบบนําทีดี ในแปลงปลูกมันเหลืองญีปุ่นของชมรมฯเผยแพร่ความรู้ทางเกษตร จะ มีการวางระบบนําแบบมินิสปริงเกอร์ ทําให้ต้นมันได้รับนําอย่างสมําเสมอและต้นมันเทศตังตัวได้เร็ว
++ การใช้ยาคลุมวัชพืชก่อนปลูกมันเทศ ++
ก่อนทีจะฉีดยาคลุมวัชพืชในแปลงปลูกมันเทศควรจะให้ดินมีความชืนระดับประมาณ  20-30% ยาคลุมวัชพืชทีนิยมใช้ในแปลงปลูกมันเทศคือยาในกลุ่มของสารอะลาคลอร์ ซึงจะคุมวัชพืชใบแคบและวัชพืชใบกว้างในบางชนิด หลังจากฉีดยาคุมใบได้ประมาณ 7-15 วัน จึงจะทําการปลูกมันเหลืองญีปุ่น
++ การเตรียมยอดพันธุ์มันเหลืองญีปุ่น ++
ในการตัดยอดพันธุ์ควรจะตัดให้มีความยาวราว 30 เซนติเมตร จะไม่ริดใบทิงหรือริดทิงก็ได้ เนืองจากยอดมันเป็นพืชทีแตกยอดออกมาใหม่ได้ง่าย ถ้าตัดยอดก็จะทําให้เสียเวลา การตัดยอดใช้ส่วนทีเป็นยอดจะดีทีสุด สําหรับท่อนที 2-3 ลงไป สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตเช่นกันแต่การให้หัวจะลดลงตามลําดับ เมือตัดท่อนพันธุ์มาแล้วควรจะมัดรวมกันเป็น ท่อนหรือเป็นกําเอาใบตองห่อมัดเอาไว้ ควรนําท่อนพันธุ์แช่นํายาฆ่าแมลงในกลุ่ม คาร์โบซัลแฟน เช่น ไฟล์ซ็อค จุ่มแช่ไว้นานราว 5-10 นาที จะช่วยลดเรืองแมลงทีจะติดไป กับท่อนพันธุ์ได้เป็นอย่างดี หลังจากนันให้นํามัดท่อนพันธุ์วางไว้ทีร่ม รดนํา เช้า-เย็น ประมาณ 2-3 วัน ยอดพันธุ์ก็จะมีรากออกมาแสดงว่าท่อนพันธุ์พร้อมปลูกแล้ว ถ้าจะให้ดียอด พันธุ์มันเทศทีจะตัดควรตัดจากต้นทีมีอายุไม่เกอน 45 วัน หรือก่อนทีจมีการฉีดพ่นสารเคมีเพือหยุดยอด ในพืนทีปลูกมันเหลืองญีปุ่นในพืนที 1 ไร่ จะใช้ยอดมันประมาณ 800016000 ยอด
++ การปลูกมันเหลืองญีปุ่น ++
ก่อนลงมือปลูกควรมีกาให้นําในแปลงปลูกอย่างน้อย 2-3 วัน เพือให้ดินมีความชืนและปลูกได้ง่ายและรวดเร็ว วิธีการเตรียมหลุมปลูกแบ่งได้ 3 วิธี คือ ปลูกแบบใช้จอบขุด ปลูก แบบใช้ปลายแหลมกระทุ้งนําไปก่อนหรือจะปลูกแบบนํายอดพันธุ์เสียบลงแปลงปลูกเลย จากการทดลองปลูก 3 วิธี พบว่าวิธีปลูกแบบใช้ไม้ปลายแหลมกระทุ้งนําไปก่อนได้ผลดี กว่าวิธีการอืน ระยะปลูกระหว่างต้นประมาณ 25-30 เซนติเมตร จะปลูกแบบ 1 หลุม ต่อ 1 ยอดพันธุ์หรือปลูก 2 ยอดพันธุ์ต่อ 1 หลุมก็ได้ หลุมทีปลูกควรมีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตรควรจะวางญอดพันธุ์ทํามุม 45 องศา ฝังลึกลงดิน 2-3 ข้อของยอดพันธุ์มมันเทศและให้ข้อโผล่พ้นดินขึนมาประมาณ 2-3 ข้อ หลังจากนันกลบดินให้แน่นเล็กน้อยเพือไม่ ให้ท่อนพันธุ์โยกคลอน
++ การให้นํามันเทศ ++
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากทีปลูกท่อนมันเหลืองญีปุ่นลงดินไปแล้ว จะต้องมีการให้นําอย่างสมําเสมอ โดยเฉพาะ 3 วันแรก จะต้องให้ทุกวันเช้า-เย็น ให้ครังละประมาณ 1-2 ชัวโมง (กรณีทีให้ระบบนําแบบมินิสสปริงเกอร์) หลังจาหนันจะให้นําวันเว้นวันหรือ 3 วัน หรือ 5 วัน หรือ 7 วัน ต่อครัง
++ การตลบเถามันเทศ ++
การตลบเถามันเหลืองญีปุ่นทีมีความจําเป็นมากสําหรับการปลูกมันเทศในช่วงฤดูฝน เนืองจากต้นมันเทศมักจะงามใบมากเกินไปหรือทีชาวบ้านเรียกว่า บ้าใบ อย่างก็ตามในการ ตลบเถามันเทศขึนอยู่กับการเจริญเติบโตของต้นมันเทศด้วยว่ามีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด ถ้าต้นมันเทศเจริญเติบโตได้ดีตามกําหนดเวลาควรจะตลบเถามันเทศในช่วงอายุต้น ประมาณ 45-60 วัน กรณีทีไม่มีการตลบเถามันเทศจะเกิดปัญหาข้อมันเทศทีเรือยติดดินเกิดเป็นรากใหม่ทีมีผลทําให้การลงหัวช้าลงและได้ผลผลิตทีมีขนาดของหัวไม่ใหญ่เท่าที ควร  วิธีการตลบเถามันเทศอาจจะใช้คราดหรือแรงงานคนก็ได้ เถามันเทศทีเลือยติดกับดินมักจะเกิดรากเราจะต้องดึงรากให้ขาด ส่วนของรากจะอยู่บริเวณเดียว คือ ตรงท่อนพันธุ์ทีเรา ปลูกเป็นครังแรก หลังจากทีมีการตลบเถาจะต้องมีการให้นําด้วยทันที
++ การป้ องกันและกําจัดโรคแมลงมันเทศ ++
ความจริงแล้วมันเทศจัดเป็นพืชทีมีโรคและแมลงรบกวนไม่มากนัก โรคจะพบมากในฤดูฝนหรือกรณีทีให้นํามากเกินไป(ขังแฉะ) เช่น โรครากเน่าโคนเน่า โรคเชือราเมล็ดผักกาด และโรคหัวมันเน่า เป็นต้น ในการป้องกันและกําจัดใช้วารป้องกันและกําจักเชือราพืนๆ อาทิ สารคาร์เบนดาซิล,  แอนทราโคล ฯลฯ
** สําหรับแมลงศัตรูม้นเทศทีมีความสําคัญทีสุด คือ ด้วงงวงมันเทศ ในพืนทีการปลูกมันเทศทัวประเทศและทัวทุกแห่งในโลกจะพบการระบาดของแมลงชนิดนี ถ้าพบการ ระบาดมากผลทีตามมาก็คือ ทําให้มันเทศลงหัวได้น้อยลง หัวมีคุณภาพตํา มีกลินเหม็นและรสชาติขม ถ้าเป็นการผลิตมันเหลืองญีปุ่นเพือส่งขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพ สินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ใหกรุงเทพมหานคร ถ้าพบว่าหัวมันเทศทีเก็บเกียวมาจากแปลงมีการทําลายของด้วงงวงมันเทศจะต้องคัดทิงทันที
มีคําแนะนําในการป้องกันและกําจัดด้วงงวงมันเทศ อันดับแรกไม่ควรปลูกมันเทศติดต่อกันหลายปี ถ้ามีพืนทีน้อยและจําเป็นจะต้องปลูกในพืนทีเดิมควรจะปลูกพืชตระกูลถัวเป็นพืช หมุนเวียน สําหรับพืนทีปลูกอยู่ในเขตชลประทานวิธีการปล่อยนําท่วมแปลงก่อนลงมือปลูกมีส่วนช่วยในการทําลายไข่ ตัวอ่อนและตัวแก่ของด้วงงวงมันเทศได้ส่วนหนึงโดยไม่ต้อง ใช้สารเคมี
ในการปลูกมันเทศในฤดูแล้งจะต้องไม่ปล่อยให้แปลงมันเทศมีดินแตกระแหง เนืองจากช่องว่างของดินจะเป็นช่องทางให้ด้วงมันเทศเข้าทําลายหัวมันเทศได้ง่ายขึน จะต้องมีการให้นําช่วงปลูกฤดูแล้งเป็นระยะๆ เพือไม่ให้ดินแตกระแหงการปล่อยให้หัวมันเทศมีอายุการเก็บเกียวทีแก่เกินไปโดยไม่ขุดเก็บเกียวออกมา การทําลาย ของด้วงงวงมันเทศก็จะเกิดมากยิงขึน
คําแนะนําจากทางราชการได้บอกถึงวิธีการป้องกันและกําจัดด้วงงวงมันเทศโดยการใช้สารเคมี เริมต้นจากการจุ่มเถามันเทศในสารคาร์โบซัลแฟน เช่น ไฟท์ช็อต ใส่สารไฟท์ช็อด อัตรา 50 ซีซี.ต่อนํา 20 ลิตร จุ่มเถามันเทศนานประมาณ 15 นาที ก่อนทีจะนําไปปลูกลงแปลงเมือต้นมันเทศมีอายุได้ 1 เดือน แนะนําใหเฉีดพ้นสารไฟท์ช็อตทุก 15-20 วัน ในช่วง ทีมันเทศลงหัวให้เปลียนมาใช้สารเคมีทีมีอัตราน้อย เช่น สารโฟโปนิล ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
** สิงทีสําคัญทีสุดก็คือจะต้องงดการฉีดพ่นสารป้องกันและกําจัดแมลงทุกชนิดอย่างน้อย 3 อาทิตย์ก่อนเก็บเกียวผลผลิต
++ อายุการเก็บเกียวมันเทศ ++
ความจริงแล้วอายุการเก็บเกียวมันเทศเกือบทุกสายพันธุ์จะเฉลียอยู่ที 120-150 วัน หลังจากปลูกยอดพันธุ์ลงไป ในขณะเดียวกันมีปัจจัยอืนทีเกียวข้องประกอบด้วย เช่น ฤดูการ ปลูก ความสมบรูณ์ของต้นสายพันธุ์ทีปลูกอย่างกรณีของมันเทศเนือสีส้มทีชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรนําเข้ามาปลูกสามารถเก็บเกียวได้ ตังแต่อายุ 100 วันขึนไป แต่ไม่ เกิน 150 วัน
 **วิธีการสังเกตว่ามันเทศแก่และเก็บเกียวได้
สังเกตทีสันร่องทีปลูก ดินจะแตกออกอย่างชัดเจน  - สังเกตเถามันจะเหียวและออกดอก - เกษตรกรควรจะขุดซุ้มตัวอย่างและนํามาทดลองบริโภค หรืออาจจะใช้มีดปาดหัวดูว่ามียางไหลออกมามากหรือน้อย ถ้ายางออกมาน้อยแสดงว่าหัวมันเทศแก่และเตรียมขุดขายส่ง
 

No comments:

Post a Comment